ปิดตำนานเสือร้ายแห่ง คาสิโนรีสอร์ท

หลังจากบทความที่ผ่านมาก เหตุระทึกที่ คาสิโนปอยเปตรีสอร์ท นายใหญ่ก็เข้ามาบริหารจัดการ คาสิโนรีสอร์ท และได้ปรับปรุงขยายพื้นที่ภายในถูกรีโนเวทใหม่ทั้งหมด ด้านหน้าของเดิมเป็นลานจอดรถก็สร้างห้องพักเพิ่มจากของเดิมมีสองชั้นก่อสร้างโรงแรมเพิ่มเป็นสี่ชั้นส่วนชั้นที่ห้าเป็นคาสิโนถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนมีคาสิโน จังเก็ตและห้องอาหารอยู่ตรงกลางและเปลี่ยนชื่อใหม่จากปอยเปต รีสอร์ทมาเป็น คาสิโนแกรนด์ไดมอนซิติ้ แต่ทางด้านทิศตะวันออกสร้างเพิ่มเป็นเก้าชั้น ผมขอกล่าวถึงที่พักของพนักงานชื่อโรงแรมเน็กเมี๊ยะที่นี่มีผีดุมากใครได้ไปนอนครั้งแรกต้องเจอทุกราย สถานที่แห่งนี้อยู่ห่างจากที่ทำงานประมาณสามกิโลเมตร การเข้าออกลำบากมากถนนเป็นดินลูกรังมีแต่โคลน ถ้าฝนตกไม่สามารถเดินทางได้อยู่ได้ประมาณสองเดือนนายใหญ่เลยให้ย้ายกลับมาพักโรงแรมที่ติดกันกับคาสิโน ต่อมาสี่ห้าวันผมก็ได้รับรู้ข่าวการจบชีวิตของเจ้าพ่อมาเฟียแห่งเมืองนครปฐมโดยถูกยิงถล่มด้วยปืนเอ็มสิบหกจำนวนแปดสิบเก้านัดกระสุนถูกร่างจนพรุนไปทั่วตัว ผมเองไปงานศพมองเห็นพวงหรีดที่แขวนมีแต่ชื่อของผู้กว้างขวางและผู้มีอิทธิพลทั้งสิ้น

พอสิ้นชื่อเสือร้ายผู้เป็นผู้มีพระคุณ ผมกลับมาทำงานที่ บ่อนแกรนด์ไดมอนซิติ้ คิดในใจว่าต่อไปนี้คงไม่มีใครมาคุ้มครอง แต่เดชบุญนายใหญ่ได้เรียกลูกน้องของเจ้าพ่อทุกคนเข้าพบแล้วสอบถามความสมัครใจว่าใครจะอยู่ทำงานบ้าง แต่ต้องอยู่ในระเบียบวินัยผมและพี่ชายพร้อมกับเพื่อนอีกสองคนขอทำงานต่อ โดยอยู่ในความดูแลของจังเก็ตของคนสนิทนายใหญ่และรับเงินเดือนตรงจังเก็ตนี้มีหน้าที่คือคอยดูแลความเรียบร้อย ไม่ให้บุคคลอื่นทีไม่ใช่ลูกค้ามาก่อความวุ่นวายมาถามทวงหนี้หรือมาขอสตางค์ ซึ่งสร้างความรำคาญให้กับลูกค้า คอยเป็นหูเป็นตา พื้นที่ต้องรับผิดชอบมีทั้งห้อง วีไอพีคาสิโน และห้องสนามทรายช่วงนั้นลูกค้าที่แกรนด์มีจำนวนมาก บ่อนซื้อมาเจ็ดร้อยแปดสิบล้านเปิดทำการไม่ถึงปีมีรายได้ถึงแปดร้อยล้าน  ถ้าวันเสาร์วันอาทิตย์การได้เสียวันๆ เป็นร้อยล้านบาทไทย สถานที่ตรงนี้ก่อนนั้นห้องวีไอพีกับสนามทรายจะอยู่ชั้นเดียวกันเป็นสิ่งที่ดีเพราะลูกค้าเสียจากข้างในก็จะออกมาผ่อนคลายแบบเล่นเบาๆ